ดูทีวีช่อง3เรื่องย่อลูกหนี้ที่รัก
แฟกซ์ทวงหนี้ที่ติดประจานหราบนบอร์ดสำนักงาน ทำให้ ออมสิน
(จรินทร์พร จุนเกียรติ)
เออีสาวผู้ไม่เป็นรองใครทั้งด้านการทำงานและการช้อปแหลกต้องอับอายขายหน้า
และหวาดผวาเป็นล้นพ้นว่าจะถูกทวงหนี้ด้วยวิธีโหดตามข่าวที่เห็นบ่อย ๆ
บนหน้าหนังสือพิมพ์ ไม่ใช่แค่นั้น เธอยังกลัวจะโดนไล่ออก เพราะ กองพร
(รัชนี ศิระเลิศ) นายหญิงของบริษัทฟันธงว่า หนี้สินคือภัยทางศีลธรรม หรือ
Moral Hazard เป็นต้นตอของอาชญากรรมทั้งหลาย
และนายหญิงคงฟันคอขาดแน่ถ้ารู้ว่าพนักงานมีหนี้สินอิรุงตุงนังจนถูกเร่งรัด
หนี้แบบไม่ไว้หน้าเช่นนี้ ต่อให้เป็นคนโปรดอย่างออมสินก็เถอะ
อิทธิ (พงษ์พันธ์ เพชรบัณฑูร) ครีเอทีฟรุ่นพี่ และมุทิตา (อนุสรา
วันทองทักษ์) พนักงานบัญชีผู้เป็นสุดซี้ของออมสินออกโรงปกป้องเธอ
และกำชับทุกคนไม่ให้แพร่งพรายเรื่องนี้ รวมทั้งข่มขู่ วรุณพร (นนทพร
ธีระวัฒนสุข) ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นคนเอาแฟกซ์มาติดประจาน
เนื่องจากวรุณพรเป็นเออีคู่แข่งของออมสิน ผลัดกันรุกผลัดกันรับมาโดยตลอด
ตั้งแต่ครั้งยังเป็นนักศึกษาฝึกงาน
แต่ออมสินก็เอาผลงานและนิสัยกระตือรือร้นมองโลกในแง่ดีชนะใจนายหญิงจนกลาย
เป็นเด็กโปรดเด็กปั้น
แถมล่าสุดเธอยังได้รับมอบหมายให้เป็นเทรนเนอร์ของ ก้องภพ (พิชญะ
นิธิไพศาลกุล) ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของนายหญิงอีกด้วย ก้องภพ
ช่างภาพอิสระฝีมือดีตระเวนถ่ายรูปชุด "ก่อนโลกละลาย" ไปทั่วโลกกับ จีรสุดา
(ธนิดา กาญจนวัฒน์) แฟนสาวลูกเศรษฐี
เซเลบริตี้ด้านสิ่งแวดล้อมจนหมดเงินไปสองล้านแต่ขายรูปได้แค่แสนเดียว
ผู้เป็นแม่จึงยื่นข้อเสนอให้มาทำงานที่บริษัทด้วยเงินเดือน ๆ ละห้าหมื่นบาท
และเงินรางวัลอยู่ทนหนึ่งล้านบาท หากทำงานครบปี
เอ้าท์ดอร์ตัวพ่อจึงต้องฝืนใจมาเป็นนักธุรกิจใต้อาณัติของมารดาอย่างไร้ข้อ
โต้แย้ง กลายมาเป็น "บอสเล็ก" ของคนในบริษัท และต้องมาเรียนรู้งานจากออมสิน
ซึ่งก้องภพตั้งฉายาให้ว่า "ออมซ่า" เพราะท่าทางมั่นอกมั่นใจจนเกินวัย
และนิสัยจุกจิกชวนหมั่นไส้หลายอย่างของออมสิน
ขณะที่กำลังประชุมนำเสนอรูปแบบการจัดงานประชุมทางวิทยาศาสตร์ระดับนานาชาติ
ก้องภพและนายหญิงก็ต้องแปลกใจเมื่อไม่เห็นออมสิน
โดยอิทธิให้ข้อมูลว่าออมสินเพิ่งอกหักจึงขอลาพักเพราะเสียศูนย์
ทั้งที่จริงเขาเป็นคนเสนอให้ออมสินกลับไปหลบพวกทวงหนี้ที่คอนโดเสียก่อน
เนื่องจากมุทิตาเห็นชายผมเกรียนแว่นดำท่าทางไม่น่าไว้ใจมาป้วนเปี้ยนแถว
ออฟฟิศ ทว่านายหญิงดูไม่เดือดร้อนนักกับการหายตัวไปของคนโปรดอย่างออมสิน
กลับเสนอคู่บัดดี้ใหม่ให้ลูกชายซึ่งก็คือ ภคมน (เบญจวรรณ อาร์ตเนอร์)
อดีตหัวหน้าเออี ลูกน้องเก่า ที่แยกออกไปเปิดบริษัทเอง
กองพรบอกความประสงค์กับลูกชายอย่างตรงไปตรงมาว่า
เธอไม่ใช่แค่หวังให้เขาเรียนรู้งานจากภคมนเท่านั้น แต่คิดจะจับคู่คนทั้งสอง
เนื่องจากภคมนเป็นผู้หญิงเก่ง จะต้องทำให้ธุรกิจเจริญก้าวหน้าแน่นอน
นิภาพรรณ หรือ ป้านิ (สาลินี ปันยารชุน) เพื่อนสนิทของกองพร
และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทก็เห็นดีเห็นชอบด้วย
ก้องภพไม่อาจทำใจยอมรับเรื่องนี้ได้เพราะเขากับภคมนเหมือนสร้างขึ้นจากเคมี
คนละชนิด เธอเป็นผู้หญิงที่คิดแต่เรื่องงานกับเงิน เธอเป็นคนสวย เก่ง ฉลาด
จนพ่อของก้องภพยังเอ่ยปากว่าเธอเหมือนกองพรสมัยสาว ๆ
นั่นยิ่งทำให้ก้องภพสยองขวัญ เขาไม่อยากได้เมียที่เหมือนแม่ขนาดนั้น
เมื่อจีรสุดารู้ความต้องการของกองพรก็ชวนให้ก้องภพลาออก
แล้วมาทำงานกับบริษัทพ่อของเธอ ก้องภพปฏิเสธ
เนื่องจากถ้าขอความช่วยเหลือจากพ่อของแฟน
ศักดิ์ศรีของเขาก็ตกต่ำไม่ต่างจากอยู่กับแม่สักเท่าไหร่
ส่วนออมสินคิดจะยืมเงินจากนุตพงศ์แฟนหนุ่มนักค้าหุ้น
แต่นุตพงศ์ก็ไปโรดโชว์ต่างประเทศ กว่าจะกลับก็เป็นอาทิตย์
และออมสินรู้สึกละอายใจที่จะไปรบกวนพ่อแม่หรือปู่ย่าอีก
เพราะที่ผ่านมาก็แบมือขอมาตลอดทั้งค่าดาวน์รถ ค่าผ่อนคอนโด
ค่ากระเป๋าแบรนด์เนม ค่าน้ำมัน ค่าที่จอดรถ ค่าครูสอนโยคะ และอื่น ๆ
อีกจิปาถะเพราะเธอไม่เคยชักหน้าถึงหลังสักเดือน
อิทธิและมุทิตาช่วยกันระดมความคิดแก้ปัญหาที่คอนโดของออมสิน
และได้บทสรุปว่ามุทิตาจะเจรจาต่อรองหนี้บัตรเครดิตมูลค่าเกือบสี่แสนกับทาง
ธนาคารให้
แต่ระหว่างนี้ออมสินต้องหลบไปอยู่ที่บ้านน้าสาวของมุทิตาที่จังหวัด
แม่ฮ่องสอนก่อน เพื่อให้พ้นจากแก๊งมาเฟียทวงหนี้
มุทิตายื่นเงินให้ออมสินยืมห้าพันบาทให้เธอใช้จ่ายระหว่างนี้
ส่วนอิทธิจะเป็นคนไปโน้มน้าวนายหญิง
โดยอ้างว่าออมสินขอลาไปปฏิบัติธรรมบำบัดอาการอกหักนั่นเอง
สาวกรุงวัยยี่สิบสี่ผู้คลั่งไคล้การจับจ่ายแบบไม่ลืมหูลืมตาจึงมาปรากฏตัว
ที่หมู่บ้านเล็ก ๆ ติดชายแดน เพื่อพักอาศัยอยู่กับ นงนุช (มยุริญ
ผ่องผุดพันธ์)
นักวิจัยทางสังคมที่มาลงหลักปักฐานที่นี่หลังจากช่วยชาวบ้านแก้ปัญหาหนี้สิน
สำเร็จ นงนุชพาออมสินไปรู้จักกับ การดี (ตรีพล พรมสุวรรณ)
เกษตรกรหนุ่มวัยเดียวกับเธอที่เลือกทำไร่ไถนา แทนที่จะเรียนต่อมหาวิทยาลัย
แต่กลับมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเป็นเกษตรกร ซึ่งเลี้ยงชีพได้อย่างมีความสุข
และคิดว่าระบบการศึกษาผลิตคนให้ออกมาเป็นลูกจ้าง
ความจริงที่ว่าการดีมีเงินเก็บรายแสนทำให้ออมสินทึ่งและสะท้อนใจ
เธอเรียนจบมหาวิทยาลัยเอกชนชั้นดี ทำงานมาเกือบสองปี
มีรายได้เดือนละเกือบสามหมื่น
แต่กลับมีหนี้สามแสนเก้าที่ยังมืดแปดด้านว่าจะชดใช้ยังไง
นงนุชและการดีสอนให้ออมสินหัดทำบัญชีรายรับรายจ่าย
แต่เจ้าตัวก็กลับขี้เกียจเกินกว่าจะทำเรื่องจุกจิกแบบนั้น
วันแรก ที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ ไร้แสงสี และปราศจากสัญญาณโทรศัพท์
ออมสินต้องอยู่กับความเงียบเหงา
และจินตนาการถึงการตามทวงหนี้อันแสนหฤโหดจนแทบจะกรีดร้อง วันที่สอง
นงนุชไปประชุมในเมือง และไม่ยอมให้ออมสินตามไปด้วย
แต่กลับพาเธอไปส่งที่บ้านป้าสอนที่เคยติดหนี้จนอยากฆ่าตัวตาย
แต่หนี้สินของป้าสอนมาจากค่าปุ๋ย ค่ายาฆ่าแมลง ค่าผ่อนมอเตอร์ไซค์ให้ลูก
ค่าเหล้าสามี
รูปแบบการบริโภคแตกต่างกับสาวชาวเมืองอย่างเธอจนเปรียบเทียบกันไม่ได้
ออมสินจึงไม่อินแต่อย่างใด
ช่วงบ่ายเธอไปบ้านของการดีและถูกเขาคะยั้นคะยอให้ทำบัญชีรายรับรายจ่ายอีก
วันที่สาม ออมสินมีโอกาสไปตลาดนัดเล็กจ้อยในหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว
และไม่วายเอาเงินที่ต้องใช้แบบจำกัดจำเขี่ยไปซื้อเสื้อผ้าอย่างอดไม่ได้
วันที่สี่
ออมสินต้องหงอยเหงาอยู่กับกองหนังสือของนงนุชที่มีแต่หนังสือแนวปรัชญาหรือ
ไม่ก็วิชาการ ไม่มีแนวแฟชั่นที่เธอชื่นชอบ จวบจนบ่าย
ก่อนออกจากบ้านนงนุชบอกว่าจะทำต้มยำปลาช่อนให้กิน
ให้ออมสินเตรียมเครื่องปรุงต้มยำไว้
ที่บ้านนงนุชปลูกผักสวนครัวที่นำมาทำต้มยำก็จริง
แต่ออมสินไม่รู้จะจัดการกับมันอย่างไรจึงไปหาการดี
แต่แทนที่เขาจะขุดข่าให้เธอกลับเพียงยื่นเสียมให้เธอ
ออมสินต้องทำทุกอย่างเองจนเหงื่อตก
ชีวิตในชนบทไม่เห็นโรแมนติกเหมือนในละครบ้านไร่เลยสักนิด
เธอบอกตัวเองว่าพรุ่งนี้จะต้องเข้าเมืองไปโทรศัพท์หามุทิตาให้ได้
ต่อให้เจรจากับเจ้าหนี้ไม่สำเร็จเธอก็ต้องไปจากที่นี่ ขอไปอยู่ในที่ ๆ
กันดารน้อยกว่านี้และมีคลื่นโทรศัพท์ให้เธอติดต่อกับเพื่อนและแฟนได้ก็พอ
ครั้นพอกลับมาถึงบ้านของนงนุช เธอกลับพบว่ามุทิตากับอิทธิอยู่ที่นั่น
แต่ที่ทำให้เธอช็อกคือก้องภพมาด้วย
แสดงว่าเขาย่อมรู้แล้วว่าเธอหลบงานมาเพราะปัญหาหนี้สินไม่ใช่ปฏิบัติธรรม
ก่อนจะมาแม่ฮ่องสอน ก้องภพอยากหนีจากภคมนมาก
จนกระทั่งอ้อนวอนมารดาขอทำงานกับออมสินเหมือนเดิม แต่กองพรไม่ยอม
ก้องภพจึงประกาศลาออก
อิทธิมาเสนอแผนว่าออมสินสามารถช่วยให้เขาไม่ต้องทำตามแผนของแม่
และเขาต้องยื่นมือช่วยออมสินเสียก่อน มุทิตาและอิทธิเล่าให้ออมสินฟังว่า
ตอนนี้เจ้าหนี้เหลือธนาคารรายใหญ่ที่รอการพิจารณา
และนำเงินไปโปะหนี้บัตรเครดิตรายย่อย ๆ ไปแล้ว
มีทั้งเงินสดสำรองจ่ายจำนวนห้าหมื่นบาท ของบริษัทที่มุทิตาดึงมาใช้ก่อน
เงินสามหมื่นของอิทธิและอีกส่วนเป็นเงินของก้องภพ
จากนั้นอิทธิก็เสนอแผนปลดหนี้ชื่อ "มหัศจรรย์เลขสาม"
ที่มีหลักการแสนง่ายคือ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และเปลี่ยนมุมมองชีวิต
เรื่องการหารายได้ อิทธิจะเริ่มจากการเปิดบล็อกและเฟซบุ๊กหัวข้อ
"คุณคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะปลดหนี้สามแสนภายในสามเดือนได้ไหม"
เมื่อมีแฟนคลับแล้วค่อยออกพ็อกเกตบุ๊ก "อิสรภาพของนักช้อปไร้สติ"
จากนั้นก็จะล่อหลอกให้นายหญิงจัดการประกวดอะไรสักอย่างที่ล็อคสเปคเพื่อ
ออมสิน โดยเฉพาะแค่นี้เธอก็หาเงินใช้ได้แล้ว
ออมสินไม่กล้าปฏิเสธเพราะไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้ เผลอ ๆ
ถ้าเธอหาเงินมาคืนบริษัทไม่ได้มุทิตาเพื่อนรักอาจจะถูกนายหญิงกองพรไล่ออก
ก่อนเธอเสียอีก
แต่ที่ทำให้ออมสินทำใจลำบากก็คือเงื่อนไขของก้องภพที่ออกเงินใช้หนี้ให้ก่อน
นั่นคือให้เธอมาเป็นแฟนเขา
ซึ่งที่จริงก็เป็นแค่การตบตากองพรและภคมนเพื่อหลีกเลี่ยงการคลุมถุงชน
นั่นเอง อิทธิกับมุทิตากลับไปแล้ว
แต่ก้องภพและออมสินยังอยู่ต่อที่นี่ต่ออีกหนึ่งอาทิตย์
ก้องภพรับหน้าที่ถ่ายภาพออมสินไปลงเฟซบุ๊กและทำหนังสั้นเกี่ยวกับเรียนรู้
แนวคิดและวิธีปฏิบัติในการใช้ชีวิตแบบพอเพียง
ส่วนอิทธิกลับมารายงานกองพรว่าก้องภพไปดูแลออมสิน
เนื่องจากหลงรักออมสินและขอยกเลิกการลาออก
เพื่อที่จะกลับมาทำงานกับออมสินเหมือนเดิม กองพรยอมให้ลูกชายกลับมาทำงานได้
แต่อายุงานต้องนับหนึ่งใหม่ ส่วนเรื่องคู่บัดดี้
อย่างไรก็ต้องเป็นภคมนไม่เปลี่ยนแปลง
นอกจากนี้เธอยังจะย้ายออมสินไปทำงานที่แผนกอื่น
การดีสอนให้ก้องภพกับออมสินผู้เป็นไม้เบื่อไม้เมากันตลอดเวลาเข้าใจ
"ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง" ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ที่ไม่ได้หมายถึงให้ทุกคนไปทำไร่ไถนา แต่เป็นการพึ่งพาตัวเองได้
และใช้ชีวิตอย่างพอประมาณมีกินมีใช้แบบพอดีตัว
ทั้งสองก็เริ่มมองเห็นว่าตัวเองต่างใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายไปกับเรื่องไม่เป็น
เรื่อง และเป็นอีกครั้งที่การดีแนะนำ ให้ทำบัญชีรายรับรายจ่ายของครัวเรือน
เพื่อจะได้มองเห็นว่าใช้จ่ายไปกับเรื่องใดบ้าง
และจะได้วางแผนการใช้เงินได้ถูก
การดีเชิญพี่ปรุง แม่บ้านต่างถิ่นมาเป็นวิทยากรให้นักเรียนทั้งสอง
พี่ปรุงเริ่มยุทธการปลดหนี้ด้วยการทำบัญชีแล้ววางไว้ในจุดที่สามีและลูกเห็น
เมื่อเห็นบัญชีติดลบของครอบครัวสามีพี่ปรุงก็ลดการดื่มเหล้าลง
ส่วนลูกก็ใช้จ่ายประหยัดขึ้น ออมสินกับก้องภพเขียนบัญชีส่งให้การดีตรวจ
และถูกวิจารณ์เสียเละเทะจนเริ่มรู้สึกว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้ว
การดีจัดกิจกรรมค่ายสำหรับเด็กมัธยมปลาย
จึงให้ก้องภพและออมสินมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กให้
เพื่อใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
แต่ปรากฏว่าผู้มาเข้าร่วมกิจกรรมไม่ครบต้องหาคนให้ครบตามจำนวน
เจ้าของทุนถึงจะยอมจ่ายเงินสนับสนุน
ก้องภพกับออมสินจึงต้องตกกระไดพลอยโจนเป็นเด็กโข่งเข้าร่วมกิจกรรมที่สอนให้
พึ่งพาตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการทำอาหารจากผักพื้นบ้านและการถนอมอาหาร
การทำสบู่ และน้ำยาล้างจาน การปะชุนเสื้อผ้า และการกินอาหารเป็นยา
รวมถึงการทำบ้านดินเพื่อเป็นห้องสมุดชุมชน
การลงพื้นที่ศึกษาวัฒนธรรมท้องถิ่น และภูมิปัญญาจากผู้เฒ่าผู้แก่
แต่กิจกรรมสุดหินคือกิจกรรมสุดท้ายที่ให้ทุกคนไปนั่งทบทวนชีวิตที่ผ่านมาของ
ตัวเอง โดยห้ามพูดห้ามคุยกับใครทั้งสิ้น
จากนั้นให้มาเปิดใจว่าตั้งแต่เกิดมาจนถึงปัจจุบัน
ช่วงไหนในชีวิตที่มีความสุขที่สุด
และได้ทำความดีกับครอบครัวหรือสังคมอย่างไร
การพูดคุยเปิดใจของเด็กมัธยมทำให้ออมสินนึกถึงตัวเองและกล้าเล่าเรื่อง
กระเป๋าแบรนด์เนม รวมไปถึงหนี้สินล้นตัวที่ทำให้เธอต้องมาซ่อนตัวถึงที่นี่
เธอเกิดความรู้สึกภูมิใจที่ได้เล่าประสบการณ์
เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันไม่ให้น้อง ๆ เดินทางผิดซ้ำรอยกับเธอ
ขณะที่ก้องภพเปิดใจว่าเขาค้นพบแล้วว่าความสุขไม่ได้อยู่ที่การเดินทางไปถ่าย
ภาพทั่วโลกจนหมดเงินไปสองล้าน แต่ความสุขกลับอยู่ที่สิ่งง่าย ๆ
อย่างการสอนเด็ก ๆ
ทำหนังสั้นเกี่ยวกับการปลูกผักอินทรีย์แม้จะไม่มีค่าตอบแทนสักบาท
และตั้งใจว่าจะช่วยสอนเด็กไทยให้มีความสามารถทำหนังสั้น
จนไปคว้ารางวัลระดับโลกได้
ออมสินได้ยินคำพูดจากปากก้องภพแล้วอดทึ่งในตัวบอสเล็กที่ตลอดมาเธอเคยดูถูก
ว่าไม่เป็นโล้เป็นพาย
วันแรกที่ออมสินกลับมาทำงานก็ต้องพบกับภคมนที่มาประกาศตัวว่าเป็นคู่แข่ง
แย่งชิงก้องภพ ที่ไม่ยอมลดราวาศอกให้อย่างแน่นอน
ขณะเดียวกันกองพรก็ให้วรุณพรคอยจับผิดออมสินกับก้องภพ
เพราะเธอไม่เชื่อว่าอดีตคู่ปรับอย่างสองคนนี้จะกลายมาเป็นคู่รักกันได้ใน
ระยะเวลาสั้น ๆ นุตพงศ์เสนอเงินให้ออมสินยืม
เพื่อที่เธอจะได้ไม่ต้องทำตามแผนการไร้สาระ
แต่อิทธิกับมุทิตาคอยหนุนให้เธอปฏิเสธด้วยเหตุผลเรื่องศักดิ์ศรีในการปลด
หนี้ด้วยตัวเอง และหากเธอขอยืมเงินแฟนมาล่ะก็
ต่อไปก็จะตกเป็นเบี้ยล่างของเขาแน่ ๆ
ออมสินจึงไม่รับการช่วยเหลือจากนุตพงศ์
แม้จะมีคำสั่งจากนายหญิงกองพรไม่ให้ออมสินและก้องภพทำงานร่วมกันแล้ว
แต่ออมสินกับก้องภพก็ยังมีงานค้าง
และต้องสะสางต่อให้เสร็จนั่นก็คือการไปเสนองานลูกค้า
แต่ทันทีที่ออมสินนึกได้ว่าสวมเสื้อผ้าชุดเดียวกับที่สวมมาเสนองานเมื่อคราว
ก่อน ออมสินก็ขาดความมั่นใจจนทำให้การพรีเซ็นต์งานเกือบล่ม
โชคดีที่ก้องภพสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้
หลังเสร็จงานก้องภพก็ยังหนีบเอาออมสินไปกินข้าวเย็นกับจีรสุดาซึ่งทำให้
ออมสินฉุนขาด
เมื่อรู้ว่าก้องภพเอาเรื่องหนี้สินของออมสินไปเล่าให้จีรสุดาแฟนสาวของเขา
ฟัง ก้องภพพาออมสินไปส่งที่คอนโดและขึ้นไปส่งถึงที่ห้อง
เมื่อเห็นอาการหวาดผวาคนทวงหนี้ ขณะที่นุตพงศ์โทรหาออมสินหลายสาย
จนก้องภพต้องตัดรำคาญด้วยการรับสายเสียให้รู้แล้วรู้รอด
ทำให้นุตพงศ์ฉุนขาดและจะคืนเงินให้ก้องภพแทนออมสินแต่ก้องภพไม่ยอม
ออมสินออกจากห้องน้ำโดยไม่รู้ว่าแฟนหนุ่มโทรมาหาเธอ
และขอให้ก้องภพมารับไปทำงาน เพราะยังหวาดผวากับแก๊งทวงหนี้
ก้องภพมารับออมสินตามสัญญา และทันทีที่ทั้งคู่ขับรถเข้าไปจอดที่บริษัท
นุตพงศ์ที่สะกดรอยตามมาตั้งแต่ที่คอนโดก็เปิดเผยตัว
นุตพงศ์ต่อว่าด้วยความเข้าใจผิดว่าก้องภพนอนค้างที่คอนโดของออมสินและจากไป
ด้วยความโกรธ ออมสินโกรธก้องภพที่เป็นต้นเหตุให้มีปัญหากับแฟน
แต่ในเมื่อนุตพงศ์ไปเสียแล้ว
ความหวังที่จะหาเงินมาใช้หนี้ก็อยู่ที่ก้องภพคนเดียว
ก้องภพเข้ามาที่บริษัทก็ถูกแม่เรียกพบและต่อว่า
กล่าวหาว่าก้องภพวางแผนทำให้ออมสินและแฟนมีปัญหากัน
ในการประชุมเรื่อง CSR กองพรเสนอให้ทำซีเอสอาร์ในองค์กรเสียก่อน
อิทธิเสนอว่าเขาเคยคุยกับออมสินเรื่อง "การกู้โลก" โดยการลดการใช้จ่าย
ไม่ซื้อเสื้อผ้า และของใช้ไม่จำเป็นอย่างน้อยหนึ่งปี
ออมสินซึ่งใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
เพราะกลุ้มใจที่นุตพงศ์ไม่ยอมรับโทรศัพท์ได้แต่ตกใจ เมื่อได้ยินเช่นนั้น
เพราะเธอไม่เคยพูดอะไรแบบนั้นกับอิทธิสักนิด ส่วนพนักงานคนอื่น ๆ
ก็หัวเราะกันครื้นเครง เพราะไม่คิดว่าช้อปปิ้งมาเนียอย่างออมสินจะทำได้
กองพรเห็นเป็นความคิดที่เข้าท่าจึงเสนอว่าถ้าออมสินทำได้จริงจะให้เงิน
รางวัลห้าหมื่นบาทแก่ออมสิน แต่ถ้าทำไม่ได้ล่ะก็
ออมสินจะต้องจ่ายคืนมาเป็นสองเท่า จากนั้นก็แต่งตั้งก้องภพ, วรุณพร, มุทิตา
เป็นคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินของออมสิน เพื่อจะได้รู้ว่าตลอดปีนี้
ออมสินจะไม่มีเสื้อผ้าและของใช้ที่ไม่จำเป็นเพิ่มจากของเดิมแม้แต่รายการ
เดียว
แต่แล้วภคมนก็กลับเอากระเป๋าแบรนด์มือสองมาเสนอขาย
ซึ่งทำให้ออมสินต้องข่มใจเป็นอย่างมาก
มุทิตาได้รับคำตอบจากธนาคารที่เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของออมสิน
และพบว่าเธอยังเหลือหนี้ที่ต้องชำระอีก "หนึ่งแสนห้าหมื่นบาท"
หมายความว่าเธอต้องกู้บอสเล็กเพิ่มอีก
รวมกับก่อนหน้านี้ก็เท่ากับสองแสนห้าหมื่นห้าพันบาท
เพราะฉะนั้นการจะหาเงินไปใช้คืนเขาได้ เธอจะต้องลดรายจ่ายและหารายได้เพิ่ม
อิทธิสั่งให้ออมสินเลิกขับรถไปทำงาน เพื่อประหยัดค่าน้ำมัน
ค่าที่จอดรถและหารายได้เสริมให้เธอ ซึ่งงานชิ้นแรกก็คือ
"สวมชุดมาสคอตแม่วัวตัวใหญ่ยักษ์"
ในงานดื่มนมของกระทรวงสาธารณสุขที่บริษัทรับผิดชอบจัดงาน
นอกจากออมสินจะต้องรับภาระหนักในการสวมชุดแม่วัวที่มีเด็ก ๆ มารุมล้อม
ทั้งทุบทั้งผลักแล้ว
เธอยังต้องปิดบังไม่ให้ก้องภพและภคมนที่มาคุมงานรู้ด้วยว่าเป็นเธอ
วันที่คณะกรรมการมาตรวจสอบทรัพย์สินที่ห้องพัก
ออมสินรู้ว่าวรุณพรพยายามจับผิดว่าเธอกับก้องภพเป็นแฟนกันตามแผน
จึงแกล้งชวนก้องภพไปคุยแบบลับ ๆ ล่อ ๆ เพื่อให้วรุณพรได้ยิน
และเข้าใจไปเองว่าก้องภพได้มาค้างที่ห้อง
หลังจากสำรวจทรัพย์สินเป็นที่เรียบร้อย
ก้องภพก็เสนอแถมบังคับด้วยอำนาจความเป็นเจ้าหนี้ให้ออมสินขี่จักรยานไปทำงาน
โดยเขาจะยืมจักรยานที่จีรสุดามีอยู่หลายคันมาให้ใช้
ออมสินต้องขี่จักรยานหอบแฮ่ก ๆ ไปทำงานไม่พอ ยังถูกดัดหลัง โดย
"มือที่มองไม่เห็น" เมื่อนุตพงศ์มาดักรอที่หน้าบริษัท
นุตพงศ์ยื่นเช็คให้ออมสินเพื่อให้เธอนำไปใช้หนี้ แต่ก้องภพกลับคว้ามาฉีก
นุตพงศ์จึงกลับไปด้วยความโกรธ
ออมสินเข้ามาในบริษัทแต่กลับถูกนายหญิงจับผิดอีกว่า
เธอกับลูกชายของเขาไม่ได้เป็นแฟนกันและปิดบังแผนการอะไรไว้
เป็นวันที่สองแล้วที่ออมสินพบว่ามีหนังสือซึ่งหาตัวเจ้าของไม่ได้มาวางอยู่
บนโต๊ะทำงานของเธอ เป็นหนังสือธรรมะที่สอนให้ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง
เธอสอบถามป้าน้อย แม่บ้านก็ไม่รู้ว่าใครนำมาวาง
ป้าน้อยยังพยายามเสนอเงินกู้ให้เธออีกตามเคย
ออมสินหยิบหนังสือกลับไปอ่านที่คอนโด และนำกลับมาวางคืนไว้ที่โต๊ะตัวเอง
จากนั้นจึงพบว่าหนังสือนั้นหายไป
และไม่รู้ว่าเจ้าของตัวจริงจะมาเอาคืนไปหรือเปล่า
แถมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจ้าของหนังสือตัวจริงเป็นใคร
ครั้นออมสินไปสอบถามมุทิตาและอิทธิก็พบว่าไม่ใช่ของสองคนนั้น
จู่ ๆ อิทธิทำตัวเป็นผู้จัดการส่วนตัว
บอกกับออมสินว่าเขารับงานพิเศษมาให้ โดยไม่ถามความสมัครใจจากออมสินสักคำ
งานนั้นคืองานดูแลคนป่วย ซึ่งคนป่วยที่ว่าก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น
เอื้อมพร (เดือนเต็ม สาลิตุล) พี่สาวของนายหญิง ซึ่งเป็นป้าแท้ ๆ
ของก้องภพนั่นเอง เอื้อมพรเป็นโปลิโอเดินไม่ได้ตั้งแต่เด็ก
คนรับใช้ที่คอยดูแลก็ลากลับบ้าน ขณะที่นายหญิงก็ไปต่างจังหวัดกับสามี
ออมสินจึงต้องมาดูแลเธอ
แต่สิ่งที่น่าหวั่นเกรงคือการรับมือกับอารมณ์ฉุนเฉียวของเอื้อมพร
ซึ่งก้องภพอธิบายว่าป้าของเขามีอาการ "ไบโพลาร์" หรืออารมณ์สองขั้ว
เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ไม่เพียงแต่ต้องรับมือกับคนแก่อารมณ์แปรปรวนแล้ว
ออมสินยังต้องอยู่ร่วมชายคาเดียวกับก้องภพถึงสองวันสองคืน
แถมระหว่างนั้นภคมนยังตามมาก่อกวนถึงที่บ้านอีก
แต่มีความจริงข้อหนึ่งที่ทำให้ออมสินตกใจคือ
เธอพบหนังสือที่เคยวางอยู่ที่โต๊ะเธอมาปรากฏในชั้นหนังสือของบ้านนี้
มันเป็นเล่มเดียวกันแน่ ๆ เพราะเธอจำคราบกาแฟที่เธอบังเอิญทำหกเลอะไว้
ออมสินสอบถามเอื้อมพรแต่ก็ยังไม่รู้แน่ชัดอยู่ดีว่าเป็นของนายหญิงหรือบอส
เล็กกันแน่
ในการประชุมเตรียมงานฉลองการก่อตั้งบริษัทครบสิบห้าปี ออมสินเสนอ
"โครงการทำบัญชีรายรับรายจ่าย" ขณะที่ก้องภพเสนอให้ทำ
"โครงการปลูกผักบนดาดฟ้า" แล้วนำเงินรายได้จากการขายผักไปทำการกุศล
โดยมัดมือชกให้ออมสินเป็นแม่งานร่วมกับเขา
วรุณพรได้ยินออมสินทะเลาะกับก้องภพ
และก้องภพบอกว่าจะไปกินข้าวเย็นกับจีรสุดา
แต่ออมสินก็แก้ตัวได้ว่าเป็นการประชดประชันกัน เพราะความหึงหวงจู่ ๆ
นุตพงศ์ก็โทรมานัดกินข้าวเย็นแต่ออมสินจำต้องปฏิเสธ
เพราะนายหญิงกับนิภาพรรณชวนให้ไปเลือกของขวัญให้ลูกค้า
ออมสินต้องพยายามข่มอกข่มใจอย่างมาก เมื่อไปเห็นของสวย ๆ งาม ๆ มากมาย
เธอลูบคลำสร้อยเส้นสวย
และเกือบตัดสินใจซื้อถ้ามุทิตาที่มาด้วยไม่ห้ามไว้เสียก่อน
ที่โต๊ะอาหารเย็น นายหญิงยื่นประวัติชีวิตของวอร์เรน บัฟเฟต
มหาเศรษฐีที่ใช้ชีวิตสมถะ และทำเพื่อสังคมให้ออมสินอ่าน
ทำให้ออมสินซึ่งเป็นวัวสันหลังหวะอดคิดที่จะสารภาพความผิดกับนายหญิงไม่ได้
คืนนั้นออมสินพยายามติดต่อนุตพงศ์ แต่อีกฝ่ายไม่รับสาย
ออมสินจึงต้องเข้าไปอัพเดทเรื่องราวในบล็อกตามปกติ
รุ่งขึ้นนุตพงศ์มารอรับออมสินที่คอนโด
เขาเสนอเงินให้เธอนำไปใช้หนี้อีกครั้ง
พร้อมกับตำแหน่งงานในบริษัทคู่แข่งที่อุตส่าห์ไปติดต่อไว้ให้
พอเห็นออมสินลังเลเขาก็ยื่นข้อเสนอให้เธอคิดแค่อีกวันเดียว
ไม่อย่างนั้นเขาจะนำเงินจำนวนนี้ไปซื้อหุ้น เพื่อไม่ให้เสียโอกาสการลงทุน
เท่านั้นไม่พอเขายังจะไปบอกความจริงทั้งหมดกับกองพร
ออมสินต้องรีบขัดขวางทำให้นุตพงศ์โกรธว่าออมสินไม่ได้ทำงานอยู่ที่เดิมเพราะ
เป็นหนี้ แต่เพราะเหตุผลอื่นมากกว่า
ออมสินก้าวเข้ามาพบบรรยากาศตึงเครียดผิดสังเกตในที่ทำงาน และเลขาฯ
ของนายหญิงก็ตามตัวเธอให้เข้าพบทันที
ออมสินเข้ามาพบก้องภพรออยู่ในห้องด้วยสีหน้าเคร่งเครียดก่อนแล้ว
เธอคิดว่านุตพงศ์โทรหานายหญิงแล้วแน่ ๆ
จึงชิงสารภาพก่อนเผื่อว่าโทษหนักจะได้กลายเป็นเบา
ออมสินปฏิเสธว่าไม่เคยมีความคิดจะไปทำงานบริษัทคู่แข่ง
แต่ปรากฏว่ากองพรไล่ทั้งคู่ออกไปจากห้อง
โดยต่อว่าให้ไปเตี๊ยมกันมาให้ดีเสียก่อน
นั่นทำให้ออมสินรู้ว่านายหญิงต่อว่าก้องภพเรื่องไปกินข้าวเย็นกับจีรสุดา
ต่างหาก และที่นายหญิงรู้ได้ก็เพราะวรุณพรเป็นสายสืบ
อิทธิเสนอให้ทั้งสองตัดขาดความสัมพันธ์กับคนรักของตัวเองสักพักเมื่อถูก
อิทธิกับมุทิตาข่มขู่ วรุณพรก็ขอโทษขอโพยว่าไม่ได้ตั้งใจ
แค่บอกข้อมูลแก่ภคมนโดยไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะตามไปถ่ายภาพก้องภพกินอาหารเย็น
กับจีรสุดาแล้วส่งให้
นายหญิงดูอิทธิเปลี่ยนท่าทีจากที่เคยข่มขู่มาเป็นการพูดดีกับวรุณพร
เป็นการใช้กลยุทธ์ดึงศัตรูมาเป็นพวกช่วยไกล่เกลี่ย
และใช้วาทศิลป์อันเป็นเลิศทำให้ออมสินกับวรุณพรเจรจาสงบศึก
ทว่าออมสินยังไม่คลายใจที่ต้องรับวรุณพรเป็นเพื่อน
คืนนั้นอิทธิพาสองสาวและมุทิตาไปเลี้ยงฉลองความสัมพันธ์
วรุณพรดื่มเหล้าไปก็เปิดเผยความคับข้องใจให้ฟังว่ามาจากครอบครัวที่คาดหวัง
ความสมบูรณ์แบบจากเธอตลอดเวลา ออมสินได้ยินแล้วอดที่จะเห็นใจเธอไม่ได้
คืนนั้นวรุณพรต้องไปค้างที่คอนโดของออมสิน
เนื่องจากไม่สามารถกลับไปให้แม่เห็นว่า ตนอยู่ในสภาพเมามายได้
ต้องอยู่จนสร่างเมาแล้วค่อยกลับไปในตอนเช้า
รุ่งขึ้น กองพรมอบหมายงานที่อีเวนท์ที่จังหวัดภูเก็ต
ซึ่งเป็นของวรุณพรให้ออมสินกับก้องภพไปทำด้วยกัน ก้องภพรีบปฏิเสธ
เพราะมีงานแสดงภาพถ่ายที่เขาต้องไปร่วมพิธีเปิดกับจีรสุดา
แต่กองพรไม่รับฟัง ออมสินก็อยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออกไม่ต่างกัน
จีรสุดายื่นคำขาดให้ก้องภพเลือกไปดูแสงเหนือ
กับเธอที่สวีเดนกับการทำงานกับแม่ต่อไป
ซึ่งหมายถึงให้เลือกระหว่างเธอและแม่ ก้องภพปฏิเสธ เพราะตั้งใจไว้แล้วว่า
ปีนี้จะไม่เดินทางไปต่างประเทศ จีรสุดาจากไปด้วยความโกรธ
เพราะคิดว่าแม่ของก้องภพจับคู่ให้เขากับออมสิน ส่วนภคมนเป็นแค่ตัวหลอก
ออมสินและก้องภพมานั่งปรับทุกข์กันไปปลูกผักบนดาดฟ้าไป
ตอนนี้ทั้งสองไม่ทะเลาะกันอีกแล้ว
ซึ่งก้องภพก็ไม่แน่ใจว่าระหว่างเขากับออมสินเป็นไปอย่างที่จีรสุดาตั้งข้อ
สังเกตหรือไม่ ก้องภพและออมสินประหลาดใจที่พบว่าภคมนมาที่ภูเก็ตด้วย
ภคมนแย่งเอาก้องภพไป ส่วนออมสินก็ก้มหน้าก้มตาทำงานจนดึกดื่น
แต่แล้วความอดทนของออมสินก็ถึงขีดสุด
เมื่อเห็นก้องภพนั่งดื่มกินอยู่กับภคมนอย่างสนิทสนม
จึงตั้งใจจะแกล้งภคมนให้ได้อาย
ออมสินปราดเข้าไปต่อว่าภคมนที่มายุ่งกับแฟนของเธอเล่นเอาก้องภพตกตะลึง
แต่เมื่อออมสินสาสมใจแล้วกลับพบนุตพงศ์ที่ตามมาเพราะคำแนะนำจาก "ผู้หวังดี"
จากที่นุตพงศ์เคยเข้าใจว่าก้องภพคิดแผนการนี้ขึ้น ฃเพื่อหวังฉวยโอกาส
แต่ตอนนี้เขาต่อว่าออมสินที่ปลดหนี้ โดยเอาตัวเข้าแลกแล้วจากไปอย่างไม่ใยดี
ออมสินต่อว่าภคมนที่ใช้วิธีสกปรกแต่ภคมนไม่ได้เป็นคนบอกให้นุตพงศ์มา
ขณะที่ก้องภพมั่นใจว่าแม่ของเขาไม่ใช้วิธีสกปรกแบบนี้แน่
ภคมนสงสัยเรื่องหนี้สินของออมสินจากบทสนทนาที่ได้ยิน
แต่ก้องภพหาทางแก้ตัวให้ทัน
ทั้งสองยังข้องใจว่าใครกันที่เป็นคนบอกให้นุตพงศ์มาที่ภูเก็ตเป็นวรุณพรหรือ
ว่าจีรสุดา
วันฉลองครบสิบห้าปีของบริษัท
หลังจากทำบุญในตอนเช้าเสร็จก็ไปเลี้ยงอาหารคนชรา
ออมสินพลอยนึกถึงปู่ย่าที่เธอไม่เคยกลับไปดูแล
ในงานเลี้ยงออมสินเอาเครื่องประดับออกมาขาย
เพื่อหาเงินไปบริจาคบ้านพักคนชรา จีรสุดาปรากฏตัวที่งานเพื่องัดข้อกับกองพร
แต่ก็ต้องล่าถอยไปด้วยความคับข้องใจ หลังจากเอาเงินไปบริจาคแล้ว
ออมสินก็มาทำงานด้วยใจที่อิ่มเอม
แต่เหมือนฟ้าผ่ากลางบริษัทเมื่อนายหญิงบอกว่าสร้อยที่เธอสวมไม่มีอยู่ใน
บัญชีทรัพย์สินของเธอ ออมสินมั่นใจว่าเธอไม่ได้ซื้ออะไรใหม่เลย
และจำไม่ได้ว่าสร้อยนี้เป็นของเธอหรือไม่หรือซื้อมาตั้งแต่ตอนไหน
อิทธิสงสัยวรุณพรซึ่งเคยไปค้างที่คอนโดของออมสิน
ครั้นไปรีดความจริงโดยการอ้างภาพจากกล้องวงจรปิด
ที่ติดเอาไว้ตั้งแต่ตอนออมสินถูกเจ้าหนี้ตาม
วรุณพรก็ยอมรับว่าแอบเอาสร้อยไปใส่ไว้ในกล่องเครื่องประดับของออมสินจริง ๆ
อิทธิรีบไปบอกนายหญิง
และนายหญิงกำชับไม่ให้อิทธิบอกกับออมสินว่าเธอรู้ความจริงแล้ว
ก้องภพนัดเจอจีรสุดาเพื่อปรับความเข้าใจ
ก้องภพมาถึงก่อนเวลาจึงนั่งดูคลิปหนังสั้นที่ตัวเองตัดต่อเสร็จ
ซึ่งทำให้จีรสุดาหึงหวงออมสิน โดยที่ก้องภพไม่รู้ตัว
ก้องภพขอเวลาพิสูจน์ตัวเองหนึ่งปี
โดยระหว่างนี้ให้เขาและเธอห่างกันก่อน เพื่อให้แม่ของเขาตายใจ
ออมสินพบว่าวิทยากรที่นายหญิงเชิญมาให้ความรู้พนักงานเรื่องชีวิตพอเพียงและ
การทำบัญชีก็คือการดีนั่นเอง
ออมสินปรับทุกข์กับการดีเรื่องเงินแสนที่ต้องจ่ายให้นายหญิง
การดีให้กำลังใจออมสิน
และบอกว่าเธอโชคดีที่มีกัลยาณมิตรช่วยให้เธอพ้นจากหนี้ รวมทั้งก้องภพและ
"มือที่มองไม่เห็น" ออมสินสงสัยเหลือเกินว่าหมายถึงใคร
วรุณพรเข้ามาขอโทษออมสิน ทั้งคู่ปรับความเข้าใจกัน
วรุณพรยอมรับว่าไม่ได้บอกนายหญิงเรื่องออมสินเป็นหนี้
รวมถึงไม่ได้เป็นคนบอกให้นุตพงศ์ตามไปที่ภูเก็ต
แต่แล้วหนังสั้นที่มีออมสินเป็นตัวละครเอกก็ถูกอัปโหลดขึ้นเว็บไซต์ยูทูบ
ออมสินรู้ว่าคนทั้งบริษัทและนายหญิงคงรู้ความจริงที่เธอปิดบังแล้ว
ออมสินเข้าไปสารภาพความผิดกับนายหญิง
แต่กลับได้พบสีหน้าขบขันแทนที่จะเป็นการเกรี้ยวกราด
แล้วกองพรก็เฉลยความจริงว่า
ทั้งหมดเป็นแผนการของเธอที่ร่วมมือกับอิทธิและมุทิตาตั้งแต่เรื่องแฟกซ์
ส่งเธอไปแม่ฮ่องสอน แม้แต่เรื่องภคมน
วัตถุประสงค์ของกองพรก็เพื่อดัดนิสัยลูกน้องคนโปรดให้สามารถปลดหนี้ได้
และดัดนิสัยลูกชายให้ทำตัวมีสาระและมาบริหารงานเสียที
ก้องภพเริ่มต้นที่จะคบหากับออมสินอย่างจริงจัง
เพราะจีรสุดาไม่สามารถรับการที่เขาจะมาดูแลธุรกิจได้
และเขาก็รับไม่ได้กับการที่จีรสุดานำหนังสั้นของออมสินไปเปิดเผย
ส่วนออมสินก็พบว่าถ้าเธอยังคบหากับนุตพงศ์ต่อไปคงเลิกนิสัยบริโภคนิยมไม่ได้
ในงานเลี้ยงฉลองรางวัลนักธุรกิจหญิงดีเด่น
ที่กองพรเป็นผู้หนึ่งที่ได้รับรางวัล
กองพรขึ้นไปกล่าวถึงการบริหารงานของเธอที่ออกกฎไม่ให้พนักงานมีหนี้
เธอไม่ต้องการให้พนักงานมีนิสัยบริโภคนิยม และไม่บ่มเพาะหนี้สิน
เนื่องจากหนี้สินคือจุดเริ่มต้นของการทุจริต
หลังจากนั้นก็เป็นการฉายภาพวิถีชีวิตของสำนักงาน ได้แก่
การทำบัญชีรายรับรายจ่ายในสมุดบัญชีบ้าง ในสมาร์ทโฟนบ้าง
การปลูกผักบนดาดฟ้า และการปั่นจักรยาน มาทำงาน
ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือภาพของออมสินที่ปลดหนี้ได้สำเร็จ
ออมสินกับก้องภพกุมมือกันขณะชมภาพเหล่านั้นด้วยความชื่นใจ
แต่แล้วการปรากฏตัวของเอื้อมพรที่มาร่วมแสดงความยินดีแก่น้องสาวก็ทำให้
ออมสินเซอร์ไพรส์สุด ๆ เนื่องจากเอื้อมพรเดินมาอย่างกระฉับกระเฉง
เอื้อมพรเฉลยว่าเธอก็เป็นหมากตัวหนึ่งในแผนการของกองพรเช่นกัน
เพื่อสอนให้ออมสินรู้จักค่าของเงิน
ออมสินไปงานเปิดตัวพ็อกเกตบุ๊ก
นุตพงศ์มาร่วมงานและขอคืนดีแต่ออมสินปฏิเสธไป
เพราะตอนนี้รู้จักตัวเองดีแล้วว่าไม่สามารถเข้ากับเขาได้
ออมสินได้รับเช็คค่าลิขสิทธิ์ต้นฉบับและเอามาใช้หนี้ก้องภพ
แต่ปรากฏว่าเจอก้องภพกำลังอ่านโปสการ์ดที่จีรสุดาส่งมาจากอัมสเตอร์ดัม
ก้องภพบอกว่าจีรสุดาชวนไปที่นั่น และเขาก็ตั้งใจว่าจะไป เพราะใกล้ครบกำหนด 1
ปีที่งดเที่ยวต่างประเทศแล้ว ออมสินงอนหนีขึ้นไปที่ดาดฟ้าที่ใช้ปลูกผัก
ก้องภพตามไปง้อและบอกว่าที่จีรสุดาชวนไปอัมสเตอร์ดัมนั้นคือชวนไปงานแต่งงาน
ก้องภพชวนออมสินให้ไปด้วยกัน ออมสินบอกว่าไม่มีเงิน ก้องภพเสนอจะให้ยืม
ออมสินแย้งว่าตนเองเพิ่งจะใช้หนี้ก้องภพไปแหม็บ ๆ
แต่ก้องภพก็ยืนยันจะให้ออมสินยืมเงิน
เพราะอยากให้ออมสินเป็นลูกหนี้ที่รักของเขาตลอดไป
ดูทีวีช่อง3
การทำบัญชีครัวเรือนและแผนมหัศจรรย์เลขสาม กลยุทธ์เหล่านี้
จะสามารถพาออมสินสาวนักช้อปไร้สติกิเลสหนา ให้หลุดพ้นจากบ่วงหนี้
เพื่อชีวิตที่พอเพียงตามแนวพระราชดำริได้อย่างไร?
ติดตามชมความสนุกสนานเหล่านี้ได้ใน ละครลูกหนี้ที่รัก หนึ่งในซีรีส์ชุด
ลูกไม้ของพ่อ ที่จะออกอากาศให้ได้ชมกันทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.45 น.
ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ละครลูกหนี้ที่รัก เริ่มตอนแรกวันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม 2556